เมื่อคุณคิดจะจริงจังกับการสร้างเว็บไซต์แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องมีนั่นคือ โดเมนเนม (Domain name) และ โฮสติ้ง (Hosting) นั่นเอง  การจดโดเมนเนมนั้นยึดหลังการสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์เช่นเดิมคือ ชื่อไม่สามารถซ้ำกันได้ เพราะฉะนั้นก่อนจดโดเมนจึงต้องทำการตรวจสอบเสียก่อนว่าชื่อที่เราต้องการนั้น ซ้ำกับคนอื่นหรือไม่ วิธีการตรวจสอบสามารถเข้าไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ของผู้ให้บริการโฮสติ้ง มองหาคำว่า Domain Search หรือคำที่ใกล้เคียง จากนั้นพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบในช่องค้นหาโดยไม่ต้องใส่ นามสกุลเช่น .com .net ฯลฯ เมื่อเสร็จแล้วคลิกค้นหา (Search) หรือกดปุ่ม Enter ระบบจะแสดงรายชื่อทั้งที่ใช้ได้ และใช้ไม่ได้ขึ้นมาให้เรา หากชื่อของเรายังไม่ซ้ำกับใครเลยบนโลกนี้ก็สามารถจดโดเมนได้ทันที

 

จดโดเมน แล้วต้องเช่าโฮสติ้งเลยหรือไม่?

โดยปกติแล้ว การจดโดเมนนั้นสามารถจดได้โดยที่ยังไม่จำเป็นต้องเช่าโฮสติ้งก็ได้ เพราะบางคนอาจพบชื่อที่ถูกใจแล้ว แต่ยังไม่ต้องการเช่าโฮสติ้งในขณะนี้ ก็เลยต้องจดโดเมนเพื่อจองชื่อเอาไว้ก่อน สำหรับผมแล้ว โดยส่วนตัวถ้าจะต้องทำเว็บไซต์ผมมักจะจดโดเมนเนม และเช่าโฮสติ้งในที่เดียวกัน เนื่องจากความง่ายในการบริหารจัดการ และอาจได้ส่วนลดต่าง ๆ นั่นเอง 

 

ขั้นตอนในการจดโดเมนเนม และเช่าโฮสติ้ง

เริ่มจากการกำหนดรายละเอียดที่ตัวเราก่อน เช่น เว็บไซต์ของเราชื่ออะไร เราจะสร้างเว็บไซต์แนวไหน ต้องการพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลมากน้อยเพียงใด หลังจากกำหนดรายละเอียดได้แล้ว ก็เริ่มค้นหาผู้ให้บริการเพื่อจดโดเมนเนม และเช่าโฮสติ้ง  ในการเลือกโฮสติ้งนั้นเราจำเป็นต้องดูรายละเอียดค่อนข้างมากสักหน่อย เนื่องจากในการสร้างเว็บไซต์นั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือเฉพาะทางอยู่พอสมควร เช่น ภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ ระบบปฏิบัติการที่รองรับ หรือแม้กระทั่งเวอร์ชั่นของโปรแกรมต่าง ๆ ก็เป็นส่วนที่ต้องพิจารณาแทบทั้งสิ้น หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการจดโดเมนเนม และเช่าโฮสติ้งที่ใดแล้ว 

 

ขั้นตอนต่อไปคือการเลือก package และกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงในแบบฟอร์มซึ่ง ซึ่งผู้ให้บริการโฮสติ้งแต่ละแห่งนั้นจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ Email เพราะเมื่อเราสมัครใช้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ให้บริการโฮสติ้งจะส่งข้อมูลสำหรับบริหารจัดการ โดเมนเนม และ โฮสติ้งกลับมาให้เรา รวมไปจนถึงข่าวสารต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องเก็บเอาไว้ให้ดี และปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ เช่น เมื่อได้รับข้อมูลแล้วให้เปลี่ยนรหัสผ่าน ให้ปฏิบัติตามนั้นทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และเพื่อความสบายใจของทั้งผู้ให้ และผู้รับบริการ

 

เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็โอนเงินค่าบริการผ่านทางบัญชีธนาคาร หรือตามที่ผู้ให้บริการแจ้งเอาไว้ อาจใช้วิธีโทรศัพท์ไปบอกว่าโอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างน้อยก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการโฮสติ้งได้รับเงิน และเตรียมตั้งตั้งระบบให้กับเราอยู่ หลังจากนั้นก็แค่รอ Email ตอบกลับมา แค่นี้ก็สามารถจดโดเมนเนม และเช่าโฮสติ้งได้แล้ว

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Hosting คืออะไร

CMS คืออะไร

WAMP คืออะไร

localhost คืออะไร

http คืออะไร