เทคนิคการขายภาพออนไลน์ในปี 2020
สิ่งที่เราต้องยอมรับคือ โลกของเทคโนโลยี และธุรกิจไม่เคยหยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่โดยตลอด แม้แต่ในวงการขายภาพออนไลน์เอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสมัคร ที่เรามักเรียกกันว่าการเปิด Port, ขั้นตอนการส่งภาพ และการตรวจภาพ หรือแม้กระทั่งในเรื่องของรายได้ของผู้ขายภาพ (Contributor) ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
บนโลกของการเปลี่ยนแปลงนี้ สิ่งที่เราทำได้ในเบื้องต้นก็คือการยอมรับ และปรับตัว รวมถึงวางแผนการในอนาคตว่าเราจะเดินต่ออย่างไร ซึ่งต่อไปนี้คือแนวคิด และแนวทาง ที่ผมมองว่าเราสามารถทำได้
1. ต้องสร้างงานที่มีคุณภาพ แปลกใหม่ โดยใช้เวลาในน้อยลง การวางแผนว่าจะถ่ายภาพอะไร แต่งภาพวันไหน ส่งภาพเมื่อไหร่ ต้องมีความชัดเจน เพราะการวางแผนจะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากขึ้น การผลิตงานได้เร็วขึ้น เพราะภาพที่มีคุณภาพ และปริมาณที่มีอย่างเหมาะสม ก็ยังคงเป็นหัวใจหลักในการขายภาพออนไลน์ ให้มีรายได้ที่ดี
2. ทำงานให้ละเอียดมากขึ้น ในส่วนของภาพนั้นผมจะไม่พูดถึงเนื่องจาก เป็นเรื่องที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าภาพแบบไหนควรถ่าย หรือถ่ายภาพอย่างไร ที่จะทำให้ลูกค้าซื้อภาพของเรา แต่สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือ การเขียน Description และการเลือก Keyword ที่เหมาะสม มีความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องหาเครื่องมือมาช่วย เพื่อให้คำที่เขียนใน Description นั้นตรงกับภาพมากที่สุด ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการหาคำมาใส่ใน Description แบบแม่น ๆ เอาไว้ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดได้ครับ
ส่วนเรื่องของการค้นหา Keyword ก็ควรมีเครื่องมือช่วยเช่นกัน ผมชอบใช้ MyKeyworder เพราะใช้งานได้ง่าย และคำที่ระบบเลือกให้มาก็มีมากเพียงพอ ที่จะให้เราคัดเลือก เพื่อจะได้นำคำที่เหมาะสมที่สุดไปใช้กับภาพของเรา หากคุณยังไม่เคยใช้ MyKeyworder คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดการใช้ MyKeyworder ได้ครับ
3. การฝัง Keyword ให้กับภาพ ถือเป็นเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าการเลือก Keyword นั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ แต่การได้มาซึ่ง Keyword ที่มีความแม่นย้ำนั้น ยังไม่เพียงพอ เพราะกระบวนการใส่ Keyword นั้นทำให้เราเสียเวลาค่อนข้างมาก เราจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงให้การทำงานของเรารวดเร็วมากขึ้น นั่นก็คือการฝัง Keyword ลงไปในภาพเลย ก็จะช่วยให้ส่งภาพได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะต่อจากนี้ไปเราจำเป็นที่จะต้องขยายตลาดมากขึ้น ส่งขายภาพกับหลากหลายเว็บไซต์มากขึ้น
4. การส่งภาพกับหลายเว็บไซต์ เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ สิ่งที่ต้องเน้นยำกันมาก ๆ ก็คือการเลือกเว็บไซต์ตัวแทนขายภาพที่มีความแน่นอน มีความชัดเจน และมีความมั่นคง สิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ ทุกขั้นตอนของการทำงานนั้น สิ่งที่เราเสียไปคือเวลา การเลือกสร้างรายได้กับ 5 หรือ 10 เว็บไซต์ ดูจะเป็นอะไรที่เหมาะสม และเพียงพอ แต่ถ้าคุณส่งมากกว่านั้นได้ เพราะมีเทคนิคส่วนตัว ก็คือเป็นเรื่องที่ดี
5. เรียนรู้การใช้โปรแกรม Opensource เพื่อลดต้นทุน เช่น Gimp ใช้สำหรับแต่งภาพ หรือ Inkscape ใช้สำหรับงาน Vector เป็นต้น แน่นอนว่าเราอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้กับการใช้โปรแกรมเหล่านี้ แต่หากเราสามารถใช้ได้ เราก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานแบบต้นทุนต่ำได้ สิ่งที่เราไม่ควรลืมก็คือโปรแกรมที่นำมาใช้งานนั้น ต้องถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุก ๆ เดือน หากเราสามารถใช้ Opensource ได้ เราก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ ถึงแม้รายได้จะไม่มาก แต่มีรายจ่ายน้อย ก็ถือเป็นการสร้างสมดุลให้กับการขายภาพออนไลน์ของเรา
และทั้งหมดนี้ คือแนวคิด และแนวทางที่ผมมองว่าเราสามารถทำได้ หากเรายังรักในการถ่ายภาพ และยังต้องการสร้างรายได้จากการขายภาพออนไลน์ คงไม่มีคำพูดใดมากไปกว่าคำว่า "ปรับตัว" และยอมรับการเปลี่ยนแปลงครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ