งานออนไลน์ อาชีพที่ต้องพิสูจน์ตัวตน
หากคุณเคยได้สัมผัสงานออนไลน์ มาบ้างแล้ว ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงงานออนไลน์ที่มีผลผูกพันกับยอดวิว เช่น ขายภาพออนไลน์, การสร้างเว็บไซต์และติดป้ายโฆษณา หรือแม้กระทั่งการเป็น Youtuber ก็ตาม แน่นอนว่าเราอาจจะเห็นการประโคมข่าวว่ายอดวิวเท่านั้น เท่านี้ ได้เงินเท่านั้น เท่านี้ แต่ทราบหรือไม่ว่ากว่าในแต่ละอาชีพนั้นจะประสบความเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาชีพเหล่านี้ล้วนแต่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาเนื้อหา และเพิ่มจำนวนของการเข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราจะมาดูกันเป็นรายอาชีพกันครับ ว่าแต่ละอาชีพนั้นต้องพิสูจน์อะไรบ้าง
ขอเริ่มต้นกับอาชีพขายภาพออนไลน์ อาชีพที่หลาย ๆ คนเข้ามา และอีกหลาย ๆ คนก็ออกไป งานประเภทนี้ต้องพัฒนาทักษะตนเองในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การแต่งภาพ การเขียนภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งเรียนรู้การทำ SEO ก็มีความจำเป็น รายได้ที่ได้จากการขายภาพออนไลน์นั้น จะได้ราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ ในแต่ละเว็บไซต์ก็จะให้ค่าตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป
เมื่อเราขายภาพออนไลน์ใหม่ ๆ รูปภาพใน Portfolio ของเรานั้นยังมีไม่มาก แน่นอนว่ารายได้ก็จะไม่มาก ปัจจุบันค่าเฉลี่ยนของราต่อภาพจะอยู่ที่ 3 - 10 บาท ต่อไป แต่ละเว็บไซต์จะให้ราคาไม่เท่ากัน บางเว็บก็ให้ราคาต่ำคือ 3 บาท และต้องสะสมยอดเงินให้ครบตามเกณฑ์จึงจะได้รับเงิน การขายภาพออนไลน์นี้จะต้องมีความขยัน อดทน และมีความมีวินัยเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งที่เราอาจได้รับคำพูดที่มันค่อนข้างกระทบใจของเราก็คือ ภาพราคา 5 บาท 10 บาท ไปทำ ๆ ไมให้เสียเวลา แน่นอนว่าคำพูดแบบนั้นไม่ผิดครับ แต่ถูกแค่ครึ่งเดียว
ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นบทพิสูจน์ตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี ว่าเราจะทำงานนี้ต่อหรือไม่ เพราะทุกครั้งที่เราถ่ายภาพ แต่งภาพ และส่งภาพนั้นต้องใช้เวลา การที่ลูกค้าจะซื้อภาพของเรานั้นภาพก็ต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าจริง ๆ เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำงานอย่างเป็นระบบ มีการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าก่อนลงมือถ่ายภาพ ซึ่งเว็บไซต์ตัวแทนขายภาพ แต่ละแห่งนั้นก็จะมีไกด์ไลน์ให้กับเรา สิ่งที่เราต้องทำก็คือถ่ายภาพตามคำแนะนำเหล่านั้น
หากต้องการทำอาชีพนี้ให้ประสบความเสร็จ หัวจิตหัวใจต้องไม่ยอมแพ้ ต้องถ่ายรูปอย่างมีแผนการ แต่งภาพอย่างไรให้รวดเร็ว เขียนคำศัพท์อย่างไรให้ลูกค้าเจอภาพของเรา รวมถึงต้องใช้เวลาอย่างยาวนานจึงจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าตัวตนของเราคือคนขายภาพออนไลน์จริง ๆ เราจะไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็อาจต้องมาคิดทบทวนกันต่อ ว่าเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้
ต่อมาคือการเขียนบทความในเว็บไซต์ หรือในบล็อก และติดโฆษณา ซึ่งต้องใช้เวลาในการเขียนบทความ และค่าตอบแทนที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าบทความของเรานั้นมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมหรือไม่ หากมีผู้เยี่ยมชมมาก โอกาสในการประสบความสำเร็จก็มากตามไปด้วย เพราะรายได้จะได้จากการที่ลูกค้าเยี่ยมชมโฆษณา ซึ่งเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าถ้าโฆษณาไม่ตรงใจจริง ๆ ก็เป็นเรื่องยากที่จะมีคนเยี่ยมชมโฆษณา และสร้างรายได้ให้กับเรา และค่าตอบแทนนั้นก็ไม่มากต่อการเยี่ยมชมในแต่ละครั้ง เพราะฉะนั้นปริมาณคนเข้าเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องสำคัญ หากต้องการจะสร้างรายได้จากการเขียนบทความเผยแพร่บทเว็บไซต์ หรือบล็อกเพื่อติดโฆษณา
การสร้างรายได้จาก Youtube ซึ่ง Youtube ก็ใช้หลักการเดียวกันกับการสร้างรายได้จากการเขียนบทความบนเว็บไซต์ หรือบนบล็อก หากเราสามารถทำเนื้อหาของวีดีโอได้ดี มีคนติดตามมาก โอกาสในการประสบความสำเร็จก็จะสูงตามไปด้วย แต่การสร้างเนื้อหาวีดีโอที่ดีนั้น มันไม่ง่าย ยิ่งคุณทำงานด้วยตัวคนเดียวด้วยจะต้องใช้เวลามากขึ้น การจะเป็น Youtuber ได้นั้นต้องพิสูจน์ตนเองหลายเรื่อง เช่น การออกหน้ากล้อง การคิดเนื้อหาให้กับวีดีโอ การตัดต่อวีดีโอ ทั้งหมดที่กล่าวมากนี้เราจะต้องทุ่มเท และลงมือทำด้วยความรู้ที่จะต้องเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา อยากเป็น Youtuber ต้องวางแผนให้มาก และลงทุนให้ถูกจุด ก็จะประสบความเร็จได้
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่างานออนไลน์นั้นเราต้องพิสูจน์ตนเองในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความตั้งอกตั้งใจในการทำ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ยอมรับแรงกดดันให้ได้ ซึ่งช่วงแรก ๆ รายได้จะน้อย แต่ใช้เวลามาก สิ่งที่เราต้องทำคือต้องใช้เวลาให้น้อยลง แต่ต้องสร้างรายได้ให้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราต้องพิสูจน์ตัวเราเอง