CMS คืออะไร
CMS ย่อมาจาก Content Management System เมื่อแปลความหมาย คือ ระบบจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้ในการสร้างเว็บไซต์ เช่น HTML, PHP และ MySQL เป็นต้น เนื่องจากภาษาเหล่านี้เป็นโปรแกรมในลักษณะของ Opensource ทำให้สามารถสร้างเว็บไซต์ และแจกจ่ายให้ใช้งานได้ฟรี สำหรับลักษณะสำคัญที่ทำให้ CMS สามารถใช้งานได้ง่ายนั้นก็คือ CMS แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วนคือ Frontend และ Backend
Frontend คือส่วนทางด้านหน้าของเว็บไซต์ ประกอบด้วย Homepage Webpage และ Link ต่าง ๆ ผู้ใช้งานทั่วไป และสมาชิกของเว็บไซต์ทุกคนสามารถมองเห็น หรือเยี่ยมชมได้
Backend คือส่วนที่ใช้ในการควบคุม Website มีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่สามารถเข้าใช้งานในส่วนนี้ได้ เช่น Admin และสมาชิกที่ได้รับอนุญาต (ทีมงานผู้มีหน้าที่ เพิ่ม แก้ไข เปลี่ยนแปลงเว็บไซต์) ระบบ Backend มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และควรมีการรักษาความปลอดภัยให้ดีที่สุด ในเบื้องต้นระบบนี้จะมี Username และ Password ของเจ้าของเว็บไซต์ และทีมผู้ดูแล Website เพื่อใช้สำหรับบริหารจัดการเว็บไซต์ เช่น ติดตั้ง หรือ ถอน Extensions ต่าง ๆ การติดตั้งและปรับแต่ง Template การ Update เนื้อหาของเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อดีของ CMS
ในความเป็นจริงอาจจะเรียกว่าจุดเด่นดูน่าจะเหมาะสมมากกว่า CMS นั้นมีจุดเด่นอยู่หลายประการ จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูง ยกตัวอย่างเช่น
1. ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทางในการออกแบบเว็บไซต์
2. สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ (หากเชื่อมต่อ Internet) ยิ่งปัจจุบัน ADSL Wifi 3G มีบริการมากขึ้น ยิ่งทำให้การสร้างเว็บไซต์ด้วย CMS ยิ่งง่ายขึ้น
3. เพิ่มความสามารถให้กับ Website โดยการติดตั้ง Extensions ซึ่ง Extensions นี้มีทั้งแบบ Download ใช้งานได้ฟรี และแบบที่เสียสตางค์ซื้อ ทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันที่ความสามารถไม่เท่ากัน Extensions ที่เสียสตางค์ซื้อจะมีความสามารถมากกว่า
4. ประหยัดเวลา ข้อนี้สำคัญมาก (สำหรับผม) เพราะ CMS มีทุกอย่างมาให้แล้ว เพียงแค่ปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเท่านั้น
5. ไม่ต้องออกแบบหน้าเว็บไซต์เอง เพราะสามารถ Download Template มาใช้งานได้ Template เหล่านี้มีทั้งแบบ Download มาใช้งานได้ฟรีและแบบเสียสตางค์ซื้อเช่นเดียวกับ Extensions
ข้อเสียของ CMS
ในความเป็นจริงน่าจะเรียกว่าจุดด้อยมากกว่า เรามาดูกันว่าจุดด้อยของ CMS มีอะไรบ้าง
1. ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำความเข้าใจค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในส่วนของ Backend
2. มักเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดได้เสมอ และด้วยความที่เราไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเอง ก็ต้องค้นหาจุดบกพร่องดังกล่าวจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ หากเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ความรู้ที่เป็นภาษาไทยค่อนข้างมีน้อย
3. บางครั้งอาจไม่ตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด เช่น เมื่อต้องการสร้างแบบฟอร์มกรอกข้อมูล จากหน้าเว็บไซต์ และส่งข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลค่อนข้างทำได้ลำบาก (สำหรับผู้เริ่มต้น)
ปัจจุบัน CMS นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจากหลายค่าย หลายผู้ผลิต การเลือกใช้งานนั้นควรอ่านข้อมูลของ CMS แต่ละตัว แล้วนำมาพิจารณาว่าเหมาะกับงานของเราหรือไม่ เพราะเมื่อเราเลือกใช้งาน CMS ตัวใดก็ตาม เราต้องใช้เวลาในการศึกษาวิธีการใช้งาน และการปรับแต่ง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวเกี่ยวกับ CMS พอสังเขป หากมีเวลาจะมา Update เพิ่มเติมให้เป็นระยะ จงอย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ หากมีข้อดีย่อมต้องมีข้อเสีย อยู่ที่การประยุกต์และปรับปรุงให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด
CMS มีให้เลือกใช้มากมาย ก่อนใช้งานควรศึกษารายละเอียดของ CMS แต่ละตัวให้ดี เนื่องจากเมื่อเราเลือกแล้ว การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก