เนื่องจาก CMS มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ การเลือก CMS มาใช้งานต้องดูความต้องการของเราก่อน ว่า website ที่เราต้องการสร้างนั้น เป็น Website ประเภทใด เช่น สำหรับนำเสนอข่าวสาร หรือเพื่อการพาณิชย์ ที่เรียกกันว่า E-commerce หรือจะเป็น Website สำหรับจัดการเรียนการสอนที่เรียกว่า LMS (Learning Management System) เมื่อกำหนดความต้องการได้แล้ว ขั้นต่อมาเป็นขั้นตอนของการหารายละเอียดของ CMS หรือ LMS แต่ละตัว ว่ามีความสามารถ และการใช้งานอย่างไร ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดของ CMS และ LMS แต่ละตัวเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น
1. Joomla เป็น CMS ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรื่อยมา ปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) คือ joomla เวอร์ชั่น 3.0 นอกจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว สิ่งที่ทำให้ joomla น่าใช้งานก็คือมีโปรแกรมเสริม (Extensions) ให้เลือกใช้งานมากมาย โดยโปรแกรมเสริมเหล่านี้ได้แก่ Module, Component, Plug-in ซึ่งมีทั้งแบบที่ Download มาใช้งานได้ฟรี และแบบที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับ Extensions ที่สามารถ Download มาใช้งานได้ฟรีนั้นก็มีให้เลือกมากมายจนคุณไม่จำเป็นต้องเสียสตางค์ซื้อเลยก็ว่าได้
2. Magento หลาย ๆ คนยกย่องให้ Magento เป็น CMS สำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีฟังก์ชั่นพื้นฐานเกี่ยวกับการทำ E-commerce อย่างครบครัน แต่ด้วยฟังก์ชั่นที่มีมากย่อมทำให้การปรับแต่งมีมากเป็นเงาตามตัว ประกอบกับในประเทศไทยยังหาข้อมูลเกี่ยวกับ Magento ที่เป็นภาษาไทยได้น้อย จึงอาจทำให้ Magento ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากนัก แต่ถ้าหากอยู่ในวงการคนทำเว็บไซต์แล้วหละก็ Magento คือพระเอกของงาน E-commerce เลยทีเดียว
3. Opencart เป็นอีกหนึ่ง CMS ที่ถือว่าน่าใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีหน้าตาที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม และใช้งานไม่ยากมากนัก ปัจจุบันมีผู้พัฒนาภาษาไทยออกมารองรับ อยู่ระดับหนึ่ง แต่หากได้ลองใช้งานให้เข้าใจการทำงานของ Opencart สักระยะหนึ่งเชื่อว่าน่าจะใช้งานได้สบายครับ หากมีเวลาจะเขียนบทความเกี่ยวกับการใช้ Opencart ให้ได้ลองใช้งานกันดู แต่หากท่านใดรู้จัก และเคยใช้งานแล้ว คงไม่ต้องบอกว่ามัน OK มากเลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง